Ho Kwon Ping ก่อตั้ง Banyan Tree โดยชื่อ Banyan Tree มาจาก ชื่อ Banyan Tree Bay อ่าวแห่งหนึ่งเกาะฮ่องกง ซึ่ง Ho Kwon Ping และภรรยาเคยทำงานอยู่ที่นั่น
โรงแรมแห่งแรกที่ภูเก็ตในปี1995บนหาดบางเทาซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของเหมืองดีบุกร้างแห่งหนึ่งที่ปรับ
ปรุงเป็นเดสทิเนชั่นรีสอร์ทที่กระจายตัวรายล้อมรอบทะเลสาบหรือ“ลากูน”บนพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ขนาด 1,000 เอเคอร์ ติดชายหาดทรายขาวละเอียดยาวถึง 8 กม.
ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะภูเก็ตโดยเป็นโรงแรมในกลุ่มของบริษัทโรงแรมลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล ที่มีอยู่ 6 แห่งคือ โรงแรมบันยันทรี ภูเก็ต, โรงแรงเชอราตัน แกรนด์ ลากูน่า ภูเก็ต, โรงแรมดุสิตธานี ลากูน่า, โรงแรมลากูน่า บีช รีสอร์ท, โรงแรมลากูน่า ฮอริเดย์ คลับ รีสอร์ท
(ลากูน่า ภูเก็ต) และโรงแรมอลามันดา ลากูน่า ภูเก็ต
โดยทั้ง 6 แห่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันในรูปแบบของ City Hotel บริหารโดยทีมงานเดียวกัน ภายใต้การทำโปรโมชั่นเดียวกัน ซึ่งแต่ละโรงแรมก็มีจุดเด่นและเป้าหมายการเจาะกลุ่มลูกค้าไม่
เหมือนกัน โดย Banyan Tree 5 ถูกเนรมิตให้เป็นโรงแรม 5 ดาว ที่แตกต่างสำหรับตลาดเฉพาะกลุ่ม เน้นความหรูหรา เน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมเดิมให้กลมกลืนกับโรงแรม
ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Banyan Tree ทุกแห่ง เรียกว่า “Sanctuary for the Senses” “สถานที่ที่ให้ความรู้สึกสงบ”
Ho ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์และการบริหารแบรนด์มากที่สุด ซึ่งจะยังคงเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จในอนาคตของ Banyan Tree ต่อไป
หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จกับการสร้างชื่อ Banyan Tree
ด้วยวิธีการสร้างและบริหารแบรนด์ที่แปลกใหม่ และสามารถสนองความต้องการของลูกค้า
พวกเขาเรียกมันว่า เป็นการ“เนรมิตรทุกความฝันของลูกค้าให้เป็นจริง”ไม่ได้ขายความหรูหรา
จากนั้นบันยันทรี กรุงเทพฯ ก็เปิดตัวในปี 2002 และกำลังก่อสร้างแห่งที่ 3 คือ บันยันทรี เชียงใหม่ และแห่งที่ 4 คือที่สมุย ทำเลใหม่ที่คาดว่าจะมีการลงทุนคือ สมุย ราคาห้องพักเฉลี่ยตั้งแต่ 20,000-40,000 บาทต่อคืน